วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Week9 เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ (3

Heroes of the Storm
          วันนี้ผมจะมาพูดถึง Heroes of the Storm กันนะครับ ทำไมถึงเลือกที่จะเล่นเพราะ Heroes of the Storm นะหรอก็คงเพราะเบื่อLOLแหละครับเลยมาลองเล่น Heroes of the Stormดู(ไม่ใช่ไรอยากได้หลังการ์ด Hearth stone) ถ้างั้นเรามาดูข้อมูลเกมกันเลยดีกว่า

heroes_1920x1200

          Heroes of the Storm เป็นเกมแนว “Hero Brawler” แปลง่ายๆก็คือเป็นเกมที่เอา Hero มาตีกันนั่นแหละ แล้วมันต่างจาก MOBA อย่าง DotA หรือ LOL ยังไง มาไล่เป็นข้อๆคร่าวๆตามนี้
1.Heroes of the Storm ไม่มี Item ให้ซื้อ (ไม่มีระบบเงินเช่นกัน)
2.แต่จะมีระบบ Talent เข้ามาแทนเพื่อเพิ่มความสามารถจาก Skill ที่ Heroes มีอยู่
3.ในส่วนของ Level จะมี Level เท่ากันทั้งทีม มีคนนึ่งได้ XP ที่เหลือก็จะได้ XP จากการฆ่า Minion ด้วย
4.ไม่ต้องอัพ Skill เพราะเมื่อเริ่มมา Level 1 Hero ทุกตัวจะมี Skill 3 skills และ skill เหล่านี้ความแรงจะเพิ่มเองตาม Level ของ Hero
5.Heroes of the Storm จะมีระบบที่เรียกว่า Object ใน Heroes of the Storm คุณจะไม่ได้เล่นอยู่แผนที่เดียวกันซ้ำๆซากเหมือน MOBA แต่จะมีหลายแผนที่ซึ่งมีวิธีเล่น หรือ Object ของแต่ละแผนที่ต่างๆโดย Object นั้นๆจะส่งผลต่อเกมมากทีเดียว เช่น Dragon Shrine จะเป็นการยึด Tower ทั้ง 2 Tower เพื่อปลดปล่อย Dragon Knight ที่ตีบ้านแรงโคตรๆออกมา โดยตอนนี้มีทั้งหมด 7 Battleground (Battleground คือแต่ละแผนที่นั่นแหละ)
6.เกมนึ่งใช้เวลา 10-30 นาทีเท่านั้น
7.ระบบ Mercenary Camp ที่เราจะไปโจมตี Minion ที่ตั้งแคมป์ให้ชนะ แล้ว Minion พวกนั้นจะยอมมาเป็นพวกเรา แล้วเข้ามาเสริม Minion ในเลนปกติของเราจนกว่าจะตาย
heroes-11

Hero
1.ต้องซื้อ Hero สามารถซื้อได้ทั้งเงินจริง และซื้อด้วย Gold ในเกม (Gold ได้จากการทำเควสที่จะให้มาทุกๆวันเรียกว่า Daily Quest)
2.แต่ทุกสัปดาห์ก็จะมี Hero ให้เล่นฟรี 7 ตัวถ้าคุณ ID Level คุณมากกว่า 15 / 6 ตัวถ้า Level คุณมากกว่า 12 / 5 ตัวถ้า Level ต่ำกว่า 12
3.Hero จะแบ่งออกเป็น 4 สายคือ Warrior (พวกตัวถึกส่วนมากทำหน้าที่ Tank) / Assassin (ทำ Damage ได้สูง /Support (มี skill ช่วยทีมอย่างการ Heal) / Specialist (ส่วนมากทำหน้าที่ป่วนเกมได้ดี อย่างการไถป้อมสุดโหด)
4.มี skill ท่าม้ายตาย หรือที่เรียกว่า Heroic Ability เลือก 2 แบบ (Skill ที่ 4) สามารถเลือกใช้ได้ตามสถาณะการณ์ หลบในพุ่มไม้ได้
5.เราจะได้รางวัลจากการเก็บ Level ของ Hero อย่างเช่นเมื่อ Hero ตัวนั้นๆ ของ ID เรา Level 2 เราจะได้ Heroic Ability อีกแบบมาให้เลือกใช้ได้ (ถ้าจะเล่น Hero ตัวนั้นๆให้ได้ประสิทธิภาพที่สุดก็ควรจะไปเล่นกับ AI จนได้ Level 4 ก่อน)
Level 2 ได้ Heroic Ability แบบที่ 2
Level 3 ได้ Talent แบบที่ 3
Level 4 ได้ Talent แบบที่ 4
6.Heroes of the Storm มีระบบขี่สัตว์: ด้วยการที่ไม่มี Item จึงไม่มีรองเท้า Blizzard จึงทดแทนด้วยระบบ Mount ให้ Hero ของเราขี่สัตว์ได้ในช่วงที่ไม่ได้ต่อสู้ (โดนโจมตี หรือร่าย skill จะตก Mount)

HeroesOfTheStorm_x64 2015-05-10 18-46-27-21

7.Heroes แต่ละตัวไม่ได้เป็นได้แค่ Role นั้นๆเสมอไป อย่าง Support ที่อัพ Talent เน้นไปทาง Damage ก็สามารถเป็นตัวทำ Damage ที่ดีได้เช่นกัน



ที่มา

วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week8 Review/แนะนำ การใช้งาน 1 โปรแกรม

Line



          ทุกวันนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Line แอพฯแชทสุดฮิตที่กำลังมาแรงแซงทางโค้ง เป็นแอพฯสำหรับทุกเพศ ทุกวัย สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ยุ่งยาก โดยไลน์มีออฟชั่นมากมายให้เลือกใช้งาน จะมีข้อดีข้อเด่นอย่างไรมาดูกันเลย

          

          Line หรือ ไลน์ คือ แอพพลิเคชั่นที่รวมการบริการ Messaging และ Voice Over IP มาเข้าด้วยกัน จึงทำให้เกิดเป็นแอพพลิชั่นที่สามารถแชท สร้างกลุ่ม ส่งข้อความ โพสต์รูปต่างๆ หรือจะโทรคุยกันแบบเสียงหรือจะคุยแบบเห็นหน้าก็ได้ โดยการใช้งานทั้งหมดไม่ต้องเสียตังเลย เพียงแค่เราใช้งานโทรศัพท์ที่มีแพคเกจอินเทอร์เน็ตอยู่แล้วหรือมีอินเทอร์เน็ตที่บ้าน Lineยังสามารถใช้งานร่วมกันระหว่าง iOS และ Android รวมทั้งระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้อีกด้วย การทำงานของ LINE นั้น มีลักษณะคล้ายๆกับ WhatsApp ที่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันการใช้งาน แต่ LINE ได้เพิ่มลูกเล่นอื่นๆเข้าไป ทำให้ LINE มีจุดเด่นที่เหนือกว่า WhatsApp มาดูสิ่งที่น่าสนใจของ LINE กันเลยดีกว่า

Free Voice Calls and Video Call (สนทนาด้วยเสียงและวิดีโอคอลฟรี)


Send Videos & Voice Message (ส่งข้อความแบบวิดีโอและเสียง)


Stickers and Emoticons (สติกเกอร์การ์ตูนน่ารักมีทั้งฟรีและเสียเงิน)


Customizable Wallpaper (ปรับแต่งภาพวอลเปเปอร์)



          LINE สามารถเปลี่ยน Wallpaper ในหน้าต่างแชทได้ โดยแอพฯ จะมีภาพ Wallpaper มาให้หลายรูปแบบ และสามารถเพิ่ม Wallpaper ที่ต้องการ โดยนำรูปที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือมาใช้งานเป็น Wallpaper ได้อีกด้วย

Group Chat (แชทแบบกลุ่ม)


Game


สามารถนำID Line มาเป็นID เข้าเกมได้อีกด้วย(เฉพาะเกมในเครือLineเท่านั้นนะ)

Add Friends / Contacts


อีกหนึ่งลูกเล่นที่ทำให้ LINE แตกต่างจาก WhatsApp นั้นก็คือการเพิ่ม Contacts ที่เลือกได้ 4 รูปแบบ 
1. เพิ่ม Contacts จากรายชื่อในโทรศัพท์หากมีเพื่อนคนไหนใช้แอพฯ นี้อยู่ จะมีสัญลักษณ์ LINE แสดงให้เห็นและสามารถเพิ่มเป็นเพื่อนได้ทันที
 2. QR Code สามารถสแกน QR Code ของเพื่อนเราเพื่อเพิ่มเป็นเพื่อนและสามารถสร้าง QR Code ของเราเอง เพื่อใช้สำหรับให้เพื่อน ๆ คนอื่น มาสแกน QR Code เพื่อเพิ่มเพื่อนใน LINE 
3. Shake it! เขย่าโทรศัพท์มือถือ เป็นวิธีการแอดเพื่อนที่เจ๋งสุด ๆ ของ LINE ใช้ในกรณีที่ทั้งสองโทรศัพท์สองเครื่องอยู่ด้วยกัน เมื่อเขย่าเครื่องพร้อม ๆ กัน ก็สามารถเพิ่มเป็นเพื่อนกันได้ 
4. Search by ID คือ เราสามารถค้นหาเพื่อนได้จาก ID (คล้าย ๆ กับ PIN ของ BB) โดยการพิมพ์ ID ของเพื่อนที่ต้องการ

ที่มา





วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week 7 : คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์


     คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ..2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่าเครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์

การทำงานของคอมพิวเตอร์
         คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม จะมีลักษณะการทำงานของส่วนต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กันเป็นกระบวนการ  โดยมีองค์ประกอบพื้นฐานหลักคือ  Input  Process และ output   ซึ่งมีขั้นตอนการทำงานดังภาพ


ขั้นตอนที่ 1 : รับข้อมูลเข้า (Input)
เริ่มต้นด้วยการนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์  ซึ่งสามารถผ่านทางอุปกรณ์ชนิดต่างๆ แล้วแต่ชนิดของข้อมูลที่จะป้อนเข้าไป เช่น   ถ้าเป็นการพิมพ์ข้อมูลจะใช้แผงแป้นพิมพ์ (Keyboard) เพื่อพิมพ์ข้อความหรือโปรแกรมเข้าเครื่อง   ถ้าเป็นการเขียนภาพจะใช้เครื่องอ่านพิกัดภาพกราฟิค (Graphics Tablet) โดยมีปากกาชนิดพิเศษสำหรับเขียนภาพ   หรือถ้าเป็นการเล่นเกมก็จะมีก้านควบคุม (Joystick) สำหรับเคลื่อนตำแหน่งของการเล่นบนจอภาพ เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2 : ประมวลผลข้อมูล (Process)
เมื่อนำข้อมูลเข้ามาแล้ว เครื่องจะดำเนินการกับข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ การประมวลผลอาจจะมีได้หลายอย่าง เช่น นำข้อมูลมาหาผลรวม นำข้อมูลมาจัดกลุ่ม นำข้อมูลมาหาค่ามากที่สุด หรือน้อยที่สุด เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 3 : แสดงผลลัพธ์ (Output)
เป็นการนำผลลัพธ์จากการประมวลผลมาแสดงให้ทราบทางอุปกรณ์ที่กำหนดไว้   โดยทั่วไปจะแสดงผ่านทางจอภาพ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า "จอมอนิเตอร์" (Monitor) หรือจะพิมพ์ข้อมูลออกทางกระดาษโดยใช้เครื่องพิมพ์ก็ได้

เครือข่ายคอมพิวเตอร์


          เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก คือเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างคอมพิวเตอร์จำนวนตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆในเครือข่าย (โหนดเครือข่าย) จะใช้สื่อที่เป็นสายเคเบิลหรือสื่อไร้สาย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่รู้จักกันดีคือ อินเทอร์เน็ต

การเชื่อมโยงเครือข่าย


          สื่อกลางการสื่อสารที่ใช้ในการเชื่อมโยงอุปกรณ์เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยสายเคเบิลไฟฟ้า (HomePNA, สายไฟฟ้าสื่อสาร, G.hn), ใยแก้วนำแสง และคลื่นวิทยุ (เครือข่ายไร้สาย) ในโมเดล OSI สื่อเหล่านี้จะถูกกำหนดให้อยู่ในเลเยอร์ที่ 1 และที่ 2 หรือชั้นกายภาพและชั้นเชื่อมโยงข้อมูล
          ครอบครัวของสื่อการสื่อสารที่ถูกพัฒนาอย่างกว้างขวางและถูกนำมาใช้ในเทคโนโลยีเครือข่ายท้องถิ่น (LAN) เรียกว่า อีเธอร์เน็ต มาตรฐานของสื่อกลางและของโพรโทคอลที่ช่วยในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ในเครือข่ายอีเธอร์เน็ตถูกกำหนดโดยมาตรฐาน IEEE 802. อีเธอร์เน็ตในโลกไซเบอร์มีทั้งเทคโนโลยีของ LAN แบบใช้สายและแบบไร้สาย อุปกรณ์ของ LAN แบบใช้สายจะส่งสัญญาณผ่านสื่อกลางที่เป็นสายเคเบิล อุปกรณ์ LAN ไร้สายใช้คลื่นวิทยุหรือสัญญาณอินฟราเรดเป็นสื่อกลางในการส่งผ่านสํญญาณ
เทคโนโลยีแบบใช้สาย
          เทคโนโลยีแบบใช้สายต่อไปนี้เรียงลำดับตามความเร็วจากช้าไปเร็วอย่างหยาบๆ


          สายคู่บิด เป็นสื่อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดสำหรับการสื่อสารโทรคมนาคมทั้งหมด สายคู่บิดประกอบด้วยกลุ่มของสายทองแดงหุ้มฉนวนที่มีการบิดเป็นคู่ๆ สายโทรศัพท์ธรรมดาที่ใช้ภายในบ้านทั่วไปประกอบด้วยสายทองแดงหุ้มฉนวนเพียงสองสายบิดเป็นคู่ สายเคเบิลเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (แบบใช้สายอีเธอร์เน็ตตามที่กำหนดโดยมาตรฐาน IEEE 802.3) จะเป็นสายคู่บิดจำนวน 4 คู่สายทองแดงที่สามารถใช้สำหรับการส่งทั้งเสียงและข้อมูล การใช้สายไฟสองเส้นบิดเป็นเกลียวจะช่วยลด crosstalk และการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างสายภายในเคเบิลชุดเดียวกัน ความเร็วในการส่งอยู่ในช่วง 2 ล้านบิตต่อวินาทีถึง 10 พันล้านบิตต่อวินาที สายคู่บิดมาในสองรูปแบบคือคู่บิดไม่มีต้วนำป้องกัน(การรบกวนจากการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าภายนอก) (unshielded twisted pair หรือ UTP) และคู่บิดมีตัวนำป้องกัน (shielded twisted pair หรือ STP) แต่ละรูปแบบออกแบบมาหลายอัตราความเร็วในการใช้งานในสถานการณ์ต่างกัน


          สายโคแอคเชียล ถูกใช้อย่างแพร่หลายสำหรับระบบเคเบิลทีวี, ในอาคารสำนักงานและสถานที่ทำงานอื่นๆ ในเครือข่ายท้องถิ่น สายโคแอคประกอบด้วยลวดทองแดงหรืออะลูมิเนียมเส้นเดี่ยวที่ล้อมรอบด้วยชั้นฉนวน (โดยปกติจะเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นกับไดอิเล็กทริกคงที่สูง) และล้อมรอบทั้งหมดด้วยตัวนำอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าจากภายนอก ฉนวนไดอิเล็กทริกจะช่วยลดสัญญาณรบกวนและความผิดเพี้ยน ความเร็วในการส่งข้อมูลอยู่ในช่วง 200 ล้านบิตต่อวินาทีจนถึงมากกว่า 500 ล้านบิตต่อวินาที


          สายใยแก้วนำแสง เป็นแก้วไฟเบอร์ จะใช้พัลส์ของแสงในการส่งข้อมูล ข้อดีบางประการของเส้นใยแสงที่เหนือกว่าสายโลหะก็คือมีการสูญเสียในการส่งน้อยและมีอิสรภาพจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและมีความเร็วในการส่งรวดเร็วมากถึงล้านล้านบิตต่อวินาที เราสามารถใช้ความยาวคลื่นที่แตกต่างของแสงที่จะเพิ่มจำนวนของข้อความที่ถูกส่งผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสงพร้อมกันในเส้นเดียวกัน

          ที่มา
http://www.jinan.co.th/computer.html
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week 6 : วิเคราะห์ข้อสอบ O-net คอมพิวเตอร์


      วันนี้ผมจะมายกตัวอย่างข้อสอบO Net 5ข้อให้เพื่อนๆพี่ๆและน้องๆได้ดูและได้ลองทำกันนะครับ งั้นเราไปเริ่มทำกันเลยดีกว่านะครับ  

ข้อสอบO Net

1.ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่นำมาใช้บนอุปกรณ์พกพาประเภท  Smartphone.
1.  Ubumtu       2.  Iphone  os
3.  Android      4.  Symbian

2.ผู้ประกอบอาชีพเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ต้องเชี่ยวชาญความรู้
ด้านใดบ้างจากตัวเลือกต่อไปนี้.
ก.  ฮาร์แวร์คอมพิวเตอร์       ข.  ระบบปฎิบัติการ
ค.  เว็บเซิร์ฟเวอร์                   ง.  HTML
จ.  ระบบฐานข้อมูล                ฉ.  ภาษาจาวา(Java)
1.  ข้อ  ก และ ค                    2.  ข้อ    และ  
3.  ข้อ    และ                     4.  ข้อ    และ  

3.ข้อใดเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายทั้งหมด.
1.  Wi-Fi  ,  IP              2.  Wi-Fi  ,Bluetooth
3.  3G  ADSL                4.  3G    Ethernet

4.ข้อใดไม่ใช่ข้อเสียของการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์.
1.  การทำผิดกฏหมายลิขสิทธิ์มีความผิดทางอาญา
2.  เป็นช่องทางหนึ่งในการระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์
3.  ผู้ใช้จะไม่ได้รับการบริการจากผู้พัมนาถ้าหากมีปัญหาการใช้งาน
4.  ทำให้ผู้พัมนาซอฟแวร์ไม่มีรายได้เพื่อประกอบการและพัฒนาต่อไปได้

5.ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด.
1.  การบันทึกข้อมูลลงแผ่นดีวีดีใช้เทคโนโลยีแบบแม่เหล็ก
2.  หมายเลขไอพีเป็นหมายเลขที่ใช้กำกับ  Network Interce Card
3.  หน่วยความจำสำรองเป็นหน่วยความจำที่มีคุณลักษณะแบบ Volntile
4.  รหัส ACIIและEBCIDICเป็นการวางรหัสตัวอักษรที่ใช้ขนาด  8 บิด



เฉลยข้อสอบ
1. ตอบ 1. Ubumtu      
2. ตอบ 3 .ข้อ    และ                    
3. ตอบ 2. Wi-Fi  ,Bluetooth
4. ตอบ 1ใการทำผิดกฏหมายลิขสิทธิ์มีความผิดทางอาญา
5. ตอบ 3.หน่วยความจำสำรองเป็นหน่วยความจำที่มีคุณลักษณะแบบ Volntile
     เป็นไงมั่งครับกับข้อสอบที่ผมยกตัวอย่างมาทำกันได้กี่ข้อครับ คงจะถูกกันเยอะเลยละสิท่า ใครที่ใกล้แล้วก็ขอให้ดูหนังสือกันด้วยนะครับ

ที่มา


วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อึนซอล BAMBINO

อึนซอล Bambino


          ถ้าจะให้กล่าวถึงวง cover dance ที่มาแรงที่สุดในขนาดนี้ ก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักวง Bambino ซึ่งวงนี้ไม่ได้อยู่กับค่ายยักษ์ใหญ่อะไรเหมือนศิลปินชื่อดังวงอื่นๆของเกาหลี แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระแสของพวกเธอก็ไม่แพ้วงใหญ่ของเกาหลีที่มาจากค่ายดังๆเลยทีเดียว โดยปัจจุบันวง Bambino ได้สังกัดอยู่ในค่าย JS Entertainment เป็นค่ายที่สร้างวง P.O.P Con สมาชิกในวงของ Bambino มีสมาชิกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน ประกอบไปด้วย อึนซอลฮาทัมมินฮุย และ อามิน ซึ่งเรียกได้ว่าแต่ละคนก็ก็มีผลงานและคร่ำหวอดอยู่ในสายเต้น Cover dance กันมาอยู่แล้วก่อนที่จะมารวมตัวกันเป็น Bambino ในที่สุด



          สมาชิกที่ผมประทับใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น อึนซอล เธอคนนี่นี้เอง โดยอึนซอลถือว่าพอมีชื่อเสียงมาอยู่แล้วก่อนที่จะรวมตัวกับทางวง เธอเคยออกรายการชื่อดังต่างๆ ของเกาหลีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรายการ Running man ที่เป็นหนึ่งในรายการเรตติ้งสูงสุดของเกาหลี ซึ่งรายการนี้จะเอาผู้เข้าแข่งขันไปขังตามสถานที่ต่างๆ  แล้วให้ทำภารกิจเพื่อจะผ่านด่านออกมาได้ สาวสวยคนนี้มีรูปร่างที่ที่มาพร้อมรูปร่างอวบอัด ผิวขาวใส และหน้าตาเซ็กซี่ จนทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นที่ใครๆ ก็สนใจไปแล้ว  ความอวบอึ๋มบวกกับพลังความขาวและท่าเต้นสุดเซ็กซี่ของเธอนี้แหละเป็นสิ่งที่มัดใจคนดู

[คลิป] แชร์สนั่นเน็ต! สาวขาวโบ๊ะ “อึนซอล” Bambino แดนซ์เด้งดึ๋งเรียกเลือดกำเดา






ที่มา


วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์

     ปัจจุบันคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักรคอมพิวเตอร์ใช่ไหมครับ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักภาษาที่มนุษย์ใช้สื่อสารกับคอมพิวเตอร์วันนี้เราจะมาทำความรู้กับภาษาคอมพิวเตอร์กันนะครับ
     ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์คือ ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำคัญคือหากไม่มีภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากขาดชุดคำสั่งในการทำงาน
     คอมพิวเตอร์จะสามารถทำงานได้จะต้องมีการเขียนโปรแกรมหรือซอร์ฟแวร์ เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานโปรแกรมต่าง ๆ ที่เขียนขึ้นมานั้น จะต้องเขียนไปตามกฎเกณฑ์ของภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ สามารถออกเป็น5ประเภทได้แก่
1. ภาษาเครื่อง (Machine language)
เป็นภาษาพื้นฐานที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ แต่ละคำสั่งประกอบขึ้นจากกลุ่มตัวเลข 0 และ 1 ซึ่งเป็นเลขฐานสอง
2. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly language)
เป็นภาษาที่ใช้สัญลักษณ์ข้อความ แทนกลุ่มของตัวเลขฐานสอง เพื่อให้ง่ายต่อการเขียนและการจดจำมากขึ้น การทำงานของโปรแกรมจะต้องทำการแปลภาษาแอสเซมบลีให้เป็นภาษาเครื่อง โดยใช้ตัวแปลที่เรียกว่า แอสเซมเบลอร์ (Assembler)
3. ภาษาชั้นสูง (High-level language) ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น โดยมีลักษณะเหมือนกับภาษาอังกฤษทั่วไป ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับฮาร์แวร์แต่อย่างใด ภาษานี้จำเป็นต้องมีตัวแปลภาษาเครื่องเช่นกัน เรียกตัวแปลนี้ว่า คอมไพเลอร์ (compiler)หรือ อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter)อย่างใดอย่างหนึ่ง ภาษาขั้นสูงที่จะกล่าวถึงในที่นี้ ได้แก่ 
1)  ภาษาฟอร์แทรน (FORmula TRANstation : FORTRAN)
จัด เป็นภาษาระดับสูงที่เก่าแก่ที่สุด ได้รับการคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรก ราว พ.ศ. 2497 โดยบริษัท ไอบีเอ็ม เป็นภาษาที่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการคำนวณ เช่น งานทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และงานวิจัยต่าง ๆ เนื่องจากแนวคิดในการเขียนโปรแกรมในระยะหลังนี้เปลี่ยนมานิยมการเขียน โปรแกรมแบบโครงสร้างมากขึ้น ลักษณะของคำสั่งภาษาฟอร์แทรนแบบเดิมไม่เอื้ออำนวยที่จะให้เขียนได้ จึงมีการปรับปรุงโครงสร้างของภาษาฟอร์แทรนให้สามารถเขียนโปรแกรมแบบโครง สร้างขึ้นมาได้ในปี พ.ศ. 2509 เรียกว่า FORTRAN 66 และในปี พ.ศ. 2520 สถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (American National Standard Institute หรือ ANSI) ได้ปรับปรุง FORTRAN 66 และยอมรับให้เป็นภาษาฟอร์แทรนที่เป็นมาตรฐาน เรียกว่า FORTRAN 77 ใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีตัวแปลภาษานี้
2)  ภาษาโคบอล (Common Business Oriented Language : COBOL)
เป็น ภาษาที่พัฒนาขึ้นในราว พ.ศ. 2502  ต่อมาได้รับการปรับปรุงจากคณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนของหน่วยงานธุรกิจและ รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา เป็นภาษาโคบอลมาตรฐานในปี พ.ศ. 2517 เป็นภาษาที่เหมาะสมสำหรับงานด้านธุรกิจ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ส่วนมากมีโปรแกรมแปลภาษาโคบอล
3)  ภาษาเบสิก (Beginner’s All – purpose Symbolic Instruction Code : BASIC)
เป็น ภาษาที่ได้รับการคิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่วิทยาลัยดาร์ทมัธ (Dartmouth College) และเผยแพร่เป็นทางการในปี พ.ศ. 2508ภาษาเบสิกเป็นภาษาที่สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้สอนเพื่อใช้สอน เขียนโปรแกรมแทนภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาอื่น เช่น ภาษาฟอร์แทรน ซึ่งมีขนาดใหญ่และต้องใช้หน่วยความจำสูงในการทำงาน ซึ่งไม่เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้น ภาษาเบสิกเป็นภาษาที่มีขนาดเล็ก เป็นตัวแปลภาษาชนิดที่เรียกว่าอินเทอร์พรีเตอร์
นอก จากนี้    ภาษาเบสิกเป็นภาษาที่ง่ายต่อการเขียน    ซึ่งผู้เขียนจะสามารถนำไปประยุกต์กับการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทุกสาขาวิชา    ผู้ที่เพิ่งฝึกเขียนโปรแกรมใหม่ ๆ หรือผู้ที่ไม่ใช่นักเขียนโปรแกรมมืออาชีพ แต่เป็นเพียงวิศวกรหรือนักวิจัย จะสามารถหัดเขียนโปรแกรมภาษาเบสิกได้ในเวลาไม่นานนัก ปกติภาษาเบสิกส่วนใหญ่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์
4) ภาษาปาสคาล (Pascal)
ตั้ง ชื่อตามนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ เบลส ปาสคาล (Blaise Pascal) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องคิดเลขโดยใช้เฟืองหมุน ภาษาปาสคาลคิดขึ้นในปี พ.ศ. 2514 โดยนิคลอส เวียซ (Niklaus Wirth) ศาสตราจารย์วิชาคอมพิวเตอร์ชาวสวิต ภาษาปาสคาลได้รับการออกแบบให้ใช้ง่ายและมีโครงสร้างที่ดี จึงเหมาะกับการใช้สอนหลักการเขียนโปรแกรม ปัจจุบันภาษาปาสคาลยังคงได้รับความนิยมใช้ในการเรียนเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์
5)  ภาษาซีและซีพลัสพลัส (C และ C++)
ภาษา ซีเป็นภาษาที่พัฒนาจากห้องปฏิบัติการเบลล์ของบริษัทเอทีแอนด์ทีในปี พ.ศ. 2515 หลังจากที่พัฒนาขึ้นได้ไม่นาน ภาษาซีก็กลายเป็นภาษาที่นิยมในหมู่นักเขียนโปรแกรมมาก และมีใช้งานในเครื่องทุกระดับ ทั้งนี้เนื่องจากภาษาซีได้รวมเอาข้อมูลของภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่ำเข้า ไว้ด้วยกัน กล่าวคือเป็นภาษาที่มีไวยากรณ์ที่เข้าใจง่าย ทำให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายเช่นเดียวกับภาษาระดับสูงทั่วไป แต่ประสิทธิภาพและความเร็วในการทำงานดีกว่ามาก เนื่องจากมีการทำงานเหมือนภาษาระดับต่ำ สามารถทำงานได้ในระดับที่เป็นการควบคุมฮาร์ดแวร์ได้มากกว่าภาษาระดับสูงอื่น ๆ ดังจะเห็นว่าภาษาซีเป็นภาษาที่สามารถพัฒนาระบบปฏิบัติการได้ เช่น ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์
นอก จากนี้เมื่อแนวคิดของการเขียนโปรแกรมแบบเชิงวัตถุ (Object Oriented Programming : OOP) ได้เข้ามามีบทบาทในวงการคอมพิวเตอร์มากขึ้น ภาษาซีก็ยังได้รับการพัฒนาโดยประยุกต์ใช้กับการเขียนโปรแกรมดังกล่าว เกิดเป็นภาษาใหม่ชื่อว่า ภาษาซีพลัสพลัส” (C++)
6)  ภาษาวิชวลเบสิก (Visual Basic)
เป็น ภาษาที่พัฒนาต่อมาจากภาษาเบสิก  ใช้ไวยากรณ์บางส่วนของภาษาเบสิกในการเขียนโปรแกรม   แต่มีแนวคิดและวิธีการพัฒนาโปรแกรมที่แตกต่างจากภาษาเบสิกโดยสิ้นเชิง รวมทั้งการใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำก็แตกต่างกันมาก ทั้งนี้เนื่องจากภาษาวิชวลเบสิกใช้แนวคิดที่ต่างออกไป
7)  การเขียนโปรแกรมแบบจินตภาพ (Visual Programming)
ภาษา นี้พัฒนาขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ออกแบบเพื่อเขียนโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ บนระบบปฏิบัติการแบบจียูไอ เช่น ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์ มีการติดต่อกับผู้ใช้โดยใช้รูปภาพ การเขียนโปรแกรมทำได้ง่ายกว่าการเขียนโปรแกรมแบบเก่ามาก
8)  ภาษาจาวา (Java)
พัฒนา ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยบริษัทซันไมโครซิสเตมส์ เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมสูงมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นภาษาที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเขียนโปรแกรมและใช้งานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภทและระบบ ปฏิบัติการทุกรูปแบบ ในช่วงแรกที่เริ่มมีการนำภาษาจาวามาใช้งานจะเป็นการใช้งานบนเครือข่ายอิน เทอร์เน็ต เป็นภาษาที่เน้นการทำงานบนเว็บ แต่ปัจจุบันสามารถสามารถนำมาประยุกต์สร้างโปรแกรมใช้งานทั่วไปได้
นอก จากนี้ เมื่อเทคโนโลยีของการสื่อสารก้าวหน้าขึ้น จนกระทั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ปาล์มท็อป หรือ แม้แต่โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตและใช้งาน ระบบเวิลด์ไวด์เว็บได้ ภาษาจาวาก็สามารถสร้างส่วนที่เรียกว่า แอปเพล็ต” (Applet) ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่กล่าวข้างต้น เรียกใช้งานจากเครื่องที่เป็นแม่ข่าย (Server) ได้
9)  ภาษาเดลฟาย (Delphi)
เป็น ภาษาที่ได้รับความนิยมภาษาหนึ่ง แนวคิดในการเขียนโปรแกรมภาษาเดลฟายเหมือนกับแนวคิดในการเขียนโปรแกรมภาษาวิ ชวลเบสิก คือเป็นการเขียนโปรแกรมเชิงจินตภาพ แต่ภาษาพื้นฐานที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมจะเป็นภาษาปาสคาล  ในการเขียนโปรแกรมเชิงจินตภาพนี้มีคอมโพเนนต์ (Component) ที่สามารถใช้เป็นส่วนประกอบเพื่อสร้างส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เป็นแบบกราฟิก ทำให้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนามีความน่าสนใจและใช้งานง่ายขึ้น การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาเดลฟายจึงเป็นที่นิยมในการนำไปพัฒนาเป็นโปรแกรมใช้ งานมาก รวมทั้งภาษาปาสคาลเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย เหมาะแก่การนำมาใช้สอนเขียนโปรแกรม

  4.  ภาษาระดับสูงมาก 
 เป็น ภาษาโปรแกรมยุคที่ 4 ซึ่งเป็นภาษาระดับสูงมาก จัดเป็นภาษาไร้กระบวนคำสั่ง หมายความว่าผู้ใช้ เพียงบอกแต่ว่าให้คอมพิวเตอร์ทำอะไร โดยไม่ต้องบอกคอมพิวเตอร์ว่าสิ่งนั้นทำอย่างไร เรียกว่าเป็นภาษาเชิงผลลัพธ์ คือเน้นว่าทำอะไร ไม่ใช่ทำอย่างไร ดังนั้นจึงเป็นภาษาโปรแกรมที่เขียนง่าย
     5. ภาษาธรรมชาติ
 เป็น ภาษาโปรแกรมยุคที่ 5 ซึ่งคล้ายกับภาษาพูดตามธรรมชาติของคน การเขียนโปรแกรมง่ายที่สุด คือการเขียนคำพูดของเราเองว่าเราต้องการอะไร ไม่ต้องใช้คำสั่งงานใดๆ เลย

 ที่มา